เมื่อ AI สร้างภาพในสไตล์ Studio Ghibli
AI สร้างภาพสไตล์ Studio Ghibli ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
มีผู้ใช้งานจำนวนมากทดลองใช้ฟีเจอร์สร้างภาพ ของ ChatGPT
ซึ่งสามารถสร้างภาพสไตล์แอนิเมชันจาก Studio Ghibli ได้อย่างน่าทึ่ง
จนกลายเป็นกระแสนิยมที่แพร่หลายในโลกออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ความสวยงามของภาพกลับตามมาด้วยคำถามสำคัญ
เกี่ยวกับ จริยธรรมในการใช้ AI และสิทธิของศิลปินต้นฉบับ
ศิลปินคิดเห็นอย่างไร?
ผลงานแอนิเมชันของ Hayao Miyazaki และ Studio Ghibli
มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้ฝีมือและหัวใจในการวาดทุกเฟรมด้วยมือ
Miyazaki เคยพูดชัดเจนว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานศิลปะ
โดยมองว่าเป็น “สิ่งที่ไม่มีจิตวิญญาณ และเป็นการดูถูกชีวิต”
แม้คำพูดนี้จะย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ต้องถูกพูดถึงอีกครั้งในปีนี้
เมื่องานภาพที่ถูกสร้างด้วย AI เริ่มล้ำเส้นมาถึงผลงานของเขาจากการพิมพ์คำสั่งเพียงไม่กี่คำ
แรงบันดาลใจ หรือแค่ขโมย?
แม้การใช้ AI เพื่อสร้างภาพในสไตล์ศิลปินคนอื่นอาจดูเหมือนการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์
แต่ในความเป็นจริงแล้ว AI ได้รับการฝึกจากฐานข้อมูลที่รวมผลงานของศิลปิน โดยไม่ได้รับอนุญาต
ศิลปินจำนวนมากแสดงความกังวลว่า AI กำลังค่อยๆ ลดคุณค่าของงานศิลป์ที่มนุษย์สร้างขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อระบบ AI ถูกฝึกจากผลงานของศิลปินโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลายฝ่ายจึงเริ่มเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI ในงานศิลปะ
รวมถึงการจัดการเรื่องลิขสิทธิ์และเครดิตอย่างเหมาะสม
เสรีภาพในการสร้างงานคือโอกาสของทุกคน
ในอีกด้านหนึ่ง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้ออกมาปกป้องแนวคิดการใช้ AI เพื่อการสร้างสรรค์
โดยมองว่านี่คือ “ประโยชน์สุทธิ” ต่อสังคม เขาเชื่อว่าการเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงการสร้างงานศิลป์ด้วยเทคโนโลยี
จะช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และลดข้อจำกัดในการแสดงออก
แล้วจุดยืนควรอยู่ตรงไหน?
ดราม่านี้ไม่ใช่แค่การพูดถึง “ภาพลอกลายเส้น” แต่สะท้อนถึงความจำเป็นที่สังคมควรถามตัวเองว่า
- เราจะวางขอบเขตของจริยธรรมใน AI อย่างไร?
- อะไรคือความสร้างสรรค์ของมนุษย์ ในยุคที่เครื่องจักรสามารถเลียนแบบได้ทุกสิ่ง?
- ศิลปินควรได้รับสิทธิและค่าตอบแทนอย่างไร เมื่อผลงานของพวกเขาถูกใช้เป็นข้อมูลฝึก AI?
AI สร้างภาพสไตล์ Studio Ghibli สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายระหว่าง “การพัฒนาเทคโนโลยี”
และ “การเคารพในผลงานของศิลปิน” ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่ต้องมีการพูดคุย เพื่อวางเงื่อนไขร่วมกันในระดับสากล