Facebook คุมเข้ม เพิ่มกฎการถ่ายทอดสด Live
Facebook เพิ่มกฎคุมเข้มการถ่ายทอดสด Live
บทเรียนจากเมื่อครั้งเหตุกราดยิงในไครซ์เชิร์ช ป้องกันเว็บไซต์ที่ทำ Click Bait และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ที่จริงเป็นรายงานข่าวมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ท่านมา เมื่อทาง Facebook ได้ออกมาตรการใหม่ เป้าหมายหลักคือ มุ่งการควบคุมสำหรับการถ่ายทอดสดหรือการ Live สดให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะต่อสู้กับบรรดาสื่อทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่นำเสนอเนื้อหารุนแรงในสื่อทางเพจ Facebook ของตนเอง โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดที่ไปเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มก่อการร้ายและเหตุการณ์ไม่ดีต่าง ๆ เพื่อจงใจทำให้เกิด Click Bait โดยหวังสร้างยอด Traffic ให้กับเว็บไซต์ หรือเพิ่ม Reach ของเพจ ซึ่งเป็นวิธีที่ชอบใช้กันมากในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งเรื่องนี้มาจากบทเรียนของโศกนาฎกรรมการกราดยิงที่ไครซต์เชิร์ช เพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวซ้ำรอยอีก เนื่องจากในเหตุน่าสลดครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตมากถึง 51 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายรายด้วยกัน
ทางด้าน กาย โรเซน รองประธานด้านจริยธรรมของ Facebook ได้ออกมาประกาศเมื่อวันอังคาร (14 พ.ค.) ว่าบริษัทจะเริ่มใช้นโยบายใหม่ด้านความปลอดภัย เพื่อมิให้มีการเผยแพร่เนื้อหาสร้างความเกลียดชัง ความรุนแรง และการก่อการร้ายผ่านการถ่ายทอดสด
โดยผู้ที่ทำผิดกฎของ Facebook ในเรื่องการแชร์คลิปและการ Live ที่มีความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ไปกดแชร์ลิงก์ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายโดยไม่มีการเขียนข้อความเสริมเพื่อสร้างความเข้าใจ “ว่าที่แชร์มาเพราะเหตุใด” จะทำให้ล็อคอินนั้นไม่สามารถใช้บริการถ่ายทอดสดได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ขั้นต่ำก็เริ่มตั้งแต่ประมาณ 30 วัน เริ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการฝ่าฝืน เป็นต้น หรือถ้าหนักขึ้นก็คือ แบนล็อคอินนั้นไปเลย
นอกจากนี้ ทาง Facebook ก็ยังได้มีการวางแผนเพื่อป้องกันในกรณีมีผู้ฝ่าฝืนกฎ แล้วไปซื้อโฆษณาใน Facebook อีกทางหนึ่งด้วย โดยกฎทั้งหมดที่ว่ามาน่าจะเริ่มใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่ต้องทำตลาดบนช่องทาง Facebook ทำคลิปวีดีโอ ก็ต้องระวังในเรื่องข้อกำหนดนี้ให้ดีเหมือนกันครับ ยิ่งถ้าชอบไปแชร์อะไรเข้ามาบ่อย ๆ เพราะถ้าทำแชร์หรือ Live ที่มีความสุ่มเสี่ยงว่าเข้าข่ายจะผิดกฎของ Facebook คุณก็โดนแบนไปเลย 30 วันเป็นอย่างต่ำ เสียโอกาสทำมาค้าขาย ทั้งที่เราอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ทาง Facebook เขาก็ไม่สนใจครับ ดังนั้นจะเลือกแชร์อะไรทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงว่าจะผิดกฎต้องดูให้ดีก่อนครับ
การเคลื่อนไหวของเฟซบุ๊กในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุกราดยิงในมัสยิด 2 แห่ง ณ เมืองไครซ์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุได้ถ่ายทอดสดเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวบนเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบริการถ่ายทอดสดของบริษัทอย่างหนัก
